Skip to content

Latest commit

 

History

History
190 lines (143 loc) · 14 KB

Memento.md

File metadata and controls

190 lines (143 loc) · 14 KB

img

Memento

Without violating encapsulation, capture and externalize an object's internal state so that the object can be restored to this state later.

🎯 เป้าหมายของ pattern นี้

ช่วยให้จำสถานะของ object และสามารถย้อนกลับไปก่อนที่จะแก้ไขมันได้

✌ หลักการแบบสั้นๆ

  1. ให้ class ที่เราอยากให้มันย้อนกลับได้สร้าง memento object เอาไว้เก็บสถานะต่างๆของตัวมันเองไว้
  2. สร้าง class ที่เอาไว้เก็บ memento object เพื่อเอาไปทำเป็น history แต่เข้าถึง memento ผ่าน interface
  3. เมื่อต้องการย้อนสถานะกลับ ให้ส่ง memento object กลับไปให้ class ที่มีความสามารถย้อนกลับ

😢 ปัญหา

วันนี้อารมณ์ดีเลยมานั่งสูดกาวแถวๆริมทะเล ด้วยความหอมเย้ายวนของกาวยี่ห้อใหม่ทำให้ปัญหาเมื่อในอดีตผุดขึ้นมาในหัว นั่นคือตอนที่เขียนโปรแกรม text editor สมัยหนุ่มๆ ส่วนปัญหาของมันก็คือ เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนสี, เปลี่ยนขนาดข้อความ, เพิ่มรูป หรือทำอะไรก็แล้วแต่ในโปรแกรมลงไป ผู้ใช้สามารถกด ย้อนกลับ ได้ แล้วสิ่งที่ทำลงไปก็จะกลับไปเป็นสถานะก่อนที่จะแก้ไขไงละ

ส่วนวิธีแก้ไขปัญหาในตอนนั้นของเราก็คือ เมื่อผู้ใช้ทำอะไรก็แล้วแต่ เราจะทำการบันทึก object ทุกตัวลงใน hardisk ก่อนทุกครั้ง แล้วเมื่อไหร่ที่ผู้ใช้กดย้อนกลับ (CTRL + Z) เราก็จะโหลด object ที่บันทึกไว้ทั้งหมดกลับมา ดังนั้นโปรแกรมเราก็ย้อนกลับไปสถานะก่อนหน้าได้แล้วเย่ ตามรูปเบย

img

แต่ด้วยฤทธิ์ของกาวทำให้เราเอะใจขึ้นมาได้ว่า รูปแบบที่ทำไปมันยังมีปัญหาอื่นๆซ่อนไว้อีกเช่น

  1. มันใช้แค่ได้กับ object ที่เรียบง่ายเท่านั้นนิ เพราะ object ที่มีข้อมูลเป็น private เราจะทำอะไรกับมันไม่ได้เลย
  2. ถ้า object ที่เราจะบันทึกมันต้องทำงานกับ object อื่นๆอีกละ ยิ่งถ้ามันพ่วงต่อกันหลายๆตัวอีกละ เราจะเขียนเก็บข้อมูลพวกนั้นยังไง
  3. ถ้า object ที่เราบันทึกไว้มีการเปลี่ยนโครงสร้างละ นั่นหมายถึงของที่เคยบันทึกไว้ทั้งหมดก็จะใช้ไม่ได้เลยอะดิ

img

จากปัญหาที่ว่ามาเราจะแก้มันยังไงดี? หรือต้องหากาวสูตรอื่นมาดมเพิ่มเผื่อจะแก้ไขได้?

😄 วิธีแก้ไข

ขณะที่โลกกำลังหมุนด้วยฤทธิ์กาว ทำให้เห็นเณรน้อยเจ้าปัญญาเกลอเก่าสมัยนั่งดูดเนื้อด้วยกัน แล้วเณรน้อยก็พูดกับเราว่า

ถ้าโยมไม่สามารถแก้ปัญหาจากภายนอกได้เพราะเข้าไปไม่ถึงข้อมูลที่เป็น private ทำไมโยมไม่ลองแก้ปัญหาจากภายในดูบ้างละ เพราะ class ตัวมันเองเท่านั้นแหละที่จะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล private ไงโยม?

ปิ๊งงงงง!! เหมือนตรัสรู้ได้ในบัดดลเพราะนึกถึง Memento Pattern ขึ้นมาได้ ซึ่งมีหลักการว่า class ใดก็ตามที่เราอยากจะให้มันเก็บสถานะตัวมันเองไว้ได้ ให้ class คัดลอก state ของตัวมันเองไว้ใน object พิเศษที่เราเรียกมันว่า Memento ซะ และจงห้ามให้ใครเข้าถึง memento ได้ตรงๆนอกจาก class ที่สร้างมันเท่านั้น ส่วน class อื่นๆถ้าจะเข้าถึง memento ให้เข้าถึงผ่าน interface ที่ให้ดูได้เฉพาะ metadata ของมันเท่านั้น เช่น วันที่สร้าง, ชื่อคำสั่ง บลาๆ ตามรูปเบย

img

อธิบาย - ให้ตัวเองฟังนิดหน่อยเดี๋ยวกาวเข้าเส้นแล้วจะลืม

  1. Editor class คือตัวที่เราอยากให้มันเก็บสถานะต่างๆไว้ได้ มันเลยสามารถสร้าง memento object ไว้ได้ (class พวกนั้นเราเรียกมันว่า Originator)
  2. คนที่จะมาคอยบันทึกสถานะของ object เราเรียกมันว่า Caretaker ซึ่งเมื่อไหร่มันอยากจะเก็บสถานะล่าสุดไว้มันก็แค่มาขอ memento object จาก Originator class แต่มันจะได้กลับไปในรูปแบบ interface เท่านั้น
  3. ส่วนเมื่อไหร่เราอยากให้ Originator class กลับไปเป็นสถานะเดิม เราก็แค่ส่ง memento object กลับไป ซึ่ง Originator นั้นสามารถเข้าถึง memento object และข้อมูล private ของตัวเองได้สมบูรณ์ ดังนั้นมันเลยสามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นตาม memento object ได้

หลังจากที่เห็นเกลอเก่าส่งยิ้มให้เพราะเราแก้ปัญหาได้แล้ว สติก็ค่อยๆวูปไป

📌 โครงสร้างของ pattern นี้

img

อธิบาย Originator Interface - คือ interface กลางสำหรับ class ที่เราอยากจะให้มันย้อนกลับสถานะต่างๆได้
Originator - คือ class ที่เราอยากจะให้มันย้อนกลับสถานะต่างๆได้ ซึ่งเจ้า class นี้จะมีความสามารถ 2 อย่างคือ 1.สร้าง memento object (Save) และ 2.ย้อนข้อมูลตัวเองกลับไปตาม memento object ที่ได้รับ (Restore)
Memento Interface - เป็น interface เพื่อให้คนอื่นที่จะทำงานกับ memento มาเรียกใช้ เช่นดูวันเวลาล่าสุดว่าบันทึกเมื่อไหร่
Concrete memento - เป็น class ที่เก็บสถานะต่างๆของ Originator class ไว้
Caretaker - เป็นคนที่เก็บสถานะต่างๆของที่ Originator เป็นคนสร้างไว้ให้ และถ้าต้องการย้อน Originator กลับไปที่สถานะไหน ก็แค่ส่ง memento object ไปให้เท่านั้น

🛠 ตัวอย่างการนำไปใช้งาน

ในตัวอย่างนี้เราจะลองเขียนโปรแกรม text editor แบบง่ายๆ ที่สามารถย้อนกลับไปสถานะก่อนหน้าได้ ปะไปดูโค้ดตัวอย่างกัน

👍 ข้อดี

  • สามารถเก็บสถานะของ object และย้อนสถานะไปมาได้โดยไม่ทำลายความเป็น encapsulation
  • แยกหน้าที่ของตัวเก็บข้อมูลต่างๆจาก Originator ได้ เพราะมี caretaker เป็นคนดูแล

👎 ข้อเสีย

  • เปลือง Ram เพราะมันจะเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
  • Caretaker จะต้องรู้จังหวะว่าเมื่อไหร่จะลบ memento object ทิ้ง
  • ภาษาบางภาษาเราไม่สามารถป้องกันการเข้าถึง memento object ได้เช่นภาษา PHP, Phyton, Javascript

‍‍📝 Code ตัวอย่าง

using System;
using System.Linq;
using System.Collections.Generic;

// Originator Interface
interface IOriginator
{
    IMemento Save();
}

// Memento Interface
interface IMemento
{
    DateTime CreatedDate { get; }

    void Restore();
}

// Concreate Originator
class TextEditor : IOriginator
{
    public string DisplayText { get; private set; }

    public IMemento Save()
        => new TextEditorMemento(this){ CurrentDisplayText = DisplayText, LastPatchedDate = DateTime.Now };

    public void SetState(IMemento state)
    {
        var version = state as TextEditorMemento;
        DisplayText = version.CurrentDisplayText;
    }

    public void InputText(string text)
        => DisplayText = $"{DisplayText}{text}";
}

// Concreate Memento
class TextEditorMemento : IMemento
{
    private TextEditor originator;

    public string CurrentDisplayText { get; set; }

    public DateTime CreatedDate => LastPatchedDate;

    public DateTime LastPatchedDate { get; set; }

    public TextEditorMemento(TextEditor originator)
        => this.originator = originator;

    public void Restore()
        => originator.SetState(this);
}

// Caretaker
class Caretaker
{
    public IList<IMemento> Histories { get; set; }

    public Caretaker()
        => Histories = new List<IMemento>();

    public void Undo()
    {
        var lastHistory = Histories.LastOrDefault();
        if(lastHistory == null)
        {
            return;
        }
        
        lastHistory.Restore();
        Histories.Remove(lastHistory);
    }
}

// Client
class Program
{
    static void Main()
    {
        var caretaker = new Caretaker();
        var originator = new TextEditor();
        Console.WriteLine("พิมพ์ข้อความ Hello ลงไป");
        originator.InputText("Hello");
        Console.WriteLine($"ข้อความใน TextEditor คือ: {originator.DisplayText}");

        Console.WriteLine();
        Console.WriteLine("บันทึกสถานะปัจจุบัน");
        caretaker.Histories.Add(originator.Save());

        Console.WriteLine();
        Console.WriteLine("พิมพ์ข้อความ World ลงไป");
        originator.InputText("World");
        Console.WriteLine($"ข้อความใน TextEditor คือ: {originator.DisplayText}");

        Console.WriteLine();
        Console.WriteLine("สั่งให้ย้อนกลับไปสถานะก่อนหน้า");
        caretaker.Undo();
        Console.WriteLine($"ข้อความใน TextEditor คือ: {originator.DisplayText}");
    }
}

Output

พิมพ์ข้อความ Hello ลงไป
ข้อความใน TextEditor คือ: Hello

บันทึกสถานะปัจจุบัน

พิมพ์ข้อความ World ลงไป
ข้อความใน TextEditor คือ: HelloWorld

สั่งให้ย้อนกลับไปสถานะก่อนหน้า
ข้อความใน TextEditor คือ: Hello

Credit

https://refactoring.guru
You can buy his book by click the image below.
img